7 เคล็ดลับการเลือกสตูดิโอโยคะ

เมื่อคุณตัดสินใจที่จะเรียนรู้และฝึกฝนโยคะ คุณอาจมีคำถามมากมายและไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหนและทำอย่างไรในการเลือกสตูดิโอสอนโยคะ ซึ่งต้องบอกว่าปัจจุบันมีสตูดิโอโยคะมีให้เลือกหลากหลายที่ หลากหลายสไตล์ ซึ่งวันนี้เราจะมาบอกเคล็ดลับในการเลือกสตูดิโอโยคะที่ใช่ และเหมาะกับตัวคุณเอง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการเรียน และช่วยให้คุณเริ่มต้นการเดินทางสู่สุขภาพและความฟิตทั้งในด้านจิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณได้อย่างยอดเยี่ยม
1. ชี้แจงเป้าหมายและแรงจูงใจ

การชี้แจงแรงจูงใจและเป้าหมายของคุณสามารถช่วยจำกัดตัวเลือกของคุณให้แคบลงได้ โดยก่อนที่เราจะเลือกสตูดิโอโยคะนั้น เราสามารถพูดคุยกับสตูดิโอสอนโยคะก่อนได้ว่าเรามีเป้าหมายการเรียนโยคะเพื่ออะไร และมีพื้นฐานอยู่ในระดับใด อย่างเช่นต้องการโยคะสำหรับก่อนคลอด ต้องการเรียนโยคะเพื่อให้ร่างกายเเข็งแรง หรือต้องการเรียนโยคะเพื่อบำบัดความเจ็บปวดหรือเพิ่งเริ่มต้นเรียนโยคะเป็นต้น

2. เลือกสตูดิโอโยคะที่มีรับการรับรองและครูผู้สอนสอนมีความชำนาญ

เราสามารถสังเกตได้ง่ายมากโดยส่วนใหญ่สามารถตรวจสอบได้จากประกาศนียบัตรที่ได้รับ ว่าได้การรับรองให้เป็นสถานที่ในการเรียนการสอนหรือไม่ ซึ่งเบื้องต้นอาจจะดูผ่านเว็บไซต์ หรือโทรสอบถามโดยตรง อีกทั้งเรายังจะได้ทราบประวัติความเป็นมาของสตูดิโอ ความสามารถของครูผู้สอนแต่ละท่าน

3. สไตล์ของคลาสที่เปิดสอน

เนื่องจากในบรรจุบันโยคะได้รับความนิยมอย่างมาก จึงมีหลาหลายคลาสให้เลือกเรียนซึ่งมีทั้งระดับง่ายไปจนถึงระดับที่ยากขึ้น อีกทั้งมีทั้งเปิดสอนสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ที่อยากเรียนเพื่อประกอบเป็นอาชีพอีกด้วย จึงต้องคำนึงถึงความต้องการของเราว่าเราชอบสไตล์แบบไหน ชอบสไตล์ส่วนตัว หรือ สไตล์เป็นกลุ่มเป็นต้น

4. การตรวจสอบสตูดิโอด้วยตนเอง

ลองไปถึงที่เลยก็ดี เพราะว่าเราจะได้เห็นสถานที่จริง และสามารถเช๊คตารางเวลาในการเรียนว่าทางสตูดิโอเปิดสอนรอบไหนบ้าง ว่างตรงตามที่คุณต้องการหรือไม่ บางที่ยังสามารถเข้าไปทดลองได้ฟรีในครั้งแรก และยังมีโอกาสได้ซักถามจากผู้ที่เลือกเรียนแล้วอีกด้วย เท่านี้เราก็สามารถเห็นทั้งสถานที่จริงและตรวจสอบสตูดิโอได้ด้วยตัวเอง

5. บรรยากาศของคลาสเรียน

บรรยากาศสามารถส่งผลกระทบอย่างมากต่อการตัดสินใจเข้าเรียนในคลาส หากบรรยากาศในการเรียนมีแต่ความเครียดและยากสำหรับตัวคุณก็จะทำให้ประสิทธิภาพในการเรียนรู้น้อยลง อีกอย่างชุมชนโยคะต้องให้ความสำคัญกับการเปิดใจกว้าง และมีแนวคิดที่ดีสามารถนำไปใช้ในชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

6. งบประมาณและค่าใช้จ่ายที่สมเหตุ สมผล

คุณสามารถเปรียบเทียบราคาในแต่ละที่ ทั้งแบบแบบส่วนตัวและแบบกลุ่มได้โดยดูตามความเหมาะสม และแต่ละที่ก็มีครูสอนโยคะที่มีความชำนาญน้อยไปถึงมากซึ่งอาจจะส่งผลต่อราคาของแต่ละคลาสเช่นกัน ก่อนจะเลือกเรียนจึงอยากให้วางแผนงบประมาณที่คุณสามารถใช้จ่ายได้ให้รอบคอบ เพื่อเป็นการวางแผนล่วงหน้าให้คุ้มค่าเหมาะสมกับคุณที่สุด

7. โลเคชั่น

เราต้องคำนึกถึงโลเคชั่นสถานที่ว่าเดินทางใช้เวลาเท่าไรหรือไกลจากบ้านมากน้อยเพียงใด เพราะถ้าหากไกลมากเกินไป อาจจะทำให้เราหมดความต้องการและเหนื่อยล่าที่จะเดินทางได้ แล้วเกิดเปลี่ยนใจไม่ไปเรียนทำให้เสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ ทางที่ดีตรวจสอบให้แน่ใจว่า สถานที่ของสตูดิโอนั้นใกล้หรือไกลหรือมีกี่สาขาที่เราสามารถเข้าเรียนได้

นี้คือเคล็ดลับที่เรานำมาฝาก เพื่อให้คุณได้เตรียมตัวและสามารถหาสตูดิโอโยคะที่เหมาะสมกับตัวคุณเอง พร้อมทั้งช่วยให้คุณเริ่มต้นการเดินทางสู่สุขภาพ ความแข็งแรงทั้งในด้านจิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณ

ติดตามบทความเพิ่มเติมที่น่าสนใจเกี่ยวกับโยคะ ได้ที่ siam.yoga เพื่อสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตใจที่ดียิ่งขึ้น